นวัตกรรม AI อาจจะถูกนำมาพัฒนาในสงคราม

นวัตกรรม หรือ สิ่งประดิษฐ์นั้นถือได้ว่าเป็นสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้นมาเพื่อทดแทนกำลังในส่วนของบางสิ่งที่มนุษย์นั้นไม่สามารถทำได้ ซึ่งเมื่อเร็วๆนี้ นวัตกรรม AI ถูกนำเข้ามาใช้เพื่อการทหาร จนหลายฝ่ายมองว่าอาจจะถูกเข้ามาใช้ในสงครามได้ในเร็วๆนี้ เนื้อหาจะเป็นอย่างไร IT-EXTREME จะพาผู้อ่านไปรู้จักกัน

นวัตกรรม AI อาจจะถูกนำมาพัฒนาในสงคราม

องค์การสหประชาชาติหรือUnitedNation(UN) เปิดเผยว่าในเดือนมีนาคมที่ผ่านมาพบ โดรนแบบ 4 ใบพัดที่ปฏิบัติการด้วยระบบ AI ชื่อรหัส Kargu-2 ผลิตและพัฒนาโดย STM บริษัทเทคโนโลยีทางการทหารสัญชาติตุรกี โดรนดังกล่าวนี้ถูกนำมาใช้ในสงครามกลางเมืองลิเบีย เพื่อโจมตีทหารของฝ่าย “กองทัพแห่งชาติลิเบีย” (แอลเอ็นเอ) ภายใต้การนำของจอมพลคาลิฟา ฮาฟตาร์ (Khalifa Haftar) รายงานจำนวน 548 หน้านี้ถูกเขียนขึ้นโดย กลุ่มผู้เชี่ยวชาญภายใต้คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UN Security Council)ที่ติดตามความเคลื่อนไหวของสงครามกลางเมืองในลิเบีย แต่ไม่ได้มีการเปิดเผยว่า มีผู้เสียชีวิตจำนวนเท่าใดจากการโจมตีของโดรนสังหารนี้ แต่จุดมุ่งหมายของรายงานนี้ เพื่อเร่งเร้าความตื่นตัวในระดับโลกให้ร่วมกันต่อต้าน “จักรกลสังหาร” เหล่านี้ก่อนที่จะสายเกินไป

La promenade sur les drones turcs de Kargu Kamikaze et les attaques  d'essaims d'UAV

“ขบวนพาหนะขนส่ง และกองกำลังของจอมพลคาลิฟา ฮาฟตาร์ ขณะกำลังถอนกำลังจากกรุงตริโปลี ได้ถูกล่าสังหารโดย อากาศยานต่อสู้ไร้คนขับ (Unmanned combat aerial vehicle) หรือ ระบบอาวุธสังหารอัตโนมัติ (lethal autonomous weapon systems) อย่างเช่น โดรน STM Kargu-2”ความตอนหนึ่งจากรายงานขององค์การสหประชาชาติ บริษัท STM ผู้คิดค้นโดรนสังหารยังอธิบายความสามารถของ Kargu ไว้ว่าเป็นโดรนที่ติดตั้งระบบปฏิบัติการอัจฉริยะแบบ machine learning สามารถจำแนกและกำหนดเป้าหมายได้ด้วยตัวเอง แล้วยังสามารถเรียกรวมกลุ่ม 20 ลำเพื่อโจมตีพร้อม ๆ กันได้ด้วย “ระบบอาวุธสังหารอัตโนมัติของเรานั้น ถูกโปรแกรมให้โจมตีเป้าหมายได้เองโดยไม่ต้องมีการเชื่อมต่อจากผู้ควบคุมไปยังอาวุธที่ติดตั้งบนตัวโดรน และระบบการยิงนั้นก็เป็นแบบ fire, forget and find (ลูกอาวุธปล่อยฯ จะพุ่งเข้าหาเป้าหมาย ได้เองโดยฐานยิงไม่ต้องคอยติดตามเป้า) “การที่โดรนสื่อสารกันเองนั้น เสี่ยงที่จะเกิดความผิดพลาดแบบต่อเนื่องกัน อย่างเช่นลำหนึ่งเกิดทำงานผิดพลาดขึ้นมาก็จะแชร์ข้อมูลผิด ๆ นั้นไปให้อีกลำหนึ่ง” จากแถลงการณ์ของแคลเล็นบอร์น